คิวบาซึ่งมีชื่อเสียงในโลกกีฬาในฐานะมหาอำนาจมวยสากลได้ให้ไฟเขียวแก่ผู้หญิงที่ต้องการมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การปฏิวัติของ ฟิเดล คาสโตรในปี 1959 ตามที่เจ้าหน้าที่กีฬาในประเทศยืนยันเมื่อวันจันทร์

คิวบา ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมวยชายระดับแนวหน้ามาช้านาน ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา พวกเขาได้รับ 41 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นับตั้งแต่มิวนิคในปี 1972 ติดอันดับชาร์ตระดับโลกในฐานะประเทศชั้นนำในการผลิตนักมวยที่ดีที่สุด

แต่สำหรับนักมวยหญิงในประเทศนั้นพวกเขาต้องอพยพไปยังประเทศอื่นเพื่อก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในกีฬานี้ เนื่องจากคิวบาห้ามผู้หญิงชกมวยมากว่าหกทศวรรษ

“มวยหญิงในคิวบา… กำลังจะนำเราไปสู่ตารางเหรียญระดับนานาชาติ ขณะนี้เรามี {กฎหมาย} ที่รับรองความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง” เอเรียล ไซนซ์รองประธานสถาบันกีฬาแห่งคิวบา (INDER) กล่าวในการแถลงข่าว หลังจากประกาศการตัดสินใจของรัฐบาลในการอนุญาตให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในกีฬา

กฎหมายใหม่ถูกบังคับให้เป็นภาพด้วยการประท้วงที่เพิ่มขึ้นเพื่อสิทธิที่เท่าเทียมกันของผู้หญิงและชุมชน LGBTQ

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ประกาศในปี 2009 ว่าผู้หญิงสามารถเริ่มแข่งขันชกมวยในเกมได้ สามปีต่อมา นักมวยหญิงคนแรกเข้าแข่งขันในลอนดอนเกมส์ 2012 และต่อมาที่ริโอเดจาเนโรในปี 2016 และโตเกียวในปี 2020

คิวบาแม้จะมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในด้านกีฬา แต่ก็เป็นประเทศหนึ่งในโลกที่ไม่ฝึกมวยหญิงในบรรดา 202 ประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสมาคมมวยสากล (IBA)

ที่น่าสนใจคือ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ไม่ได้บอกว่าเหตุใดผู้หญิงจึงถูกห้ามชกมวยในคิวบา ผู้หญิงบนเกาะได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในมวยปล้ำ ยกน้ำหนัก คาราเต้ เทควันโดและยูโด การเพิ่มการชกมวยทำให้เกิดกระแสอย่างรวดเร็วในโรงยิมในกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบา ที่ซึ่งผู้หญิงฝึกฝนมานานหลายปี แต่ถูกบังคับให้ออกจากเกาะหากต้องการแข่งขัน